Back to basic , go to inner .

Our Teacher

image4

Ravindra Singh Rawat  เป็นชื่อเต็ม ครอบครัวเพื่อนฝูงเรียกสั้น ๆ ว่า ระวี  (Ravi)  ครูระวีเป็นพี่คนโตของครูวิเวก  อายุห่างกันสามปี  มาทำความรู้จักกับครูพี่ระวีกันเล็กน้อย

 

ประวัติส่วนตัว

ครูระวีเกิดที่หมู่บ้านบนภูเขา อำเภอ Bharpoor อินเดียทางเหนือ รัฐอุตรขัณฑ์ ห่างจากเมือง ฤษีเกศ 3-4 ชั่วโมง ฤษีเกศ ห่างจากนิวเดลี 10 ชั่วโมง หากเดินทางด้วยรถบัส

 

image1

เป็นลูกชายคนโตของครอบครัว ?

เปล่า คนโตสุดเป็นผู้หญิง ที่จริงผมมีพี่สาว แต่เค้าเสียชีวิตตั้งแต่เค้ายังเด็ก ผมเลยกลายเป็นคนโตและคนแรกของครอบครัว จากนั้นมีน้องชายอีกคน คือ วิเวก

 

ชีวิตวัยเด็ก

ตอนเด็กขี้โรค อ่อนแอ เจ็บป่วยบ่อย พ่อแม่ต้องประคบประหงม แม่จะรักและห่วงผมมาก  ผมกับน้องชายเป็นเพื่อนเล่นที่สนิทกันมาก ไปโรงเรียนด้วยกัน  นอนด้วยกัน  กินด้วยกัน เล่นซนกัน  ช่วยแม่ทำงาน เช่น หาบน้ำจากบ่อขึ้นมาไว้ใช้ หาบไปแหย่กันไป กว่าจะถึงบ้านน้ำหกหมด  โดนตีประจำ  มีขนมก็เอามาแบ่งกัน หิวก็อดด้วยกัน ใครเศร้าก็ผลัดกันปลอบใจ  คนในหมู่บ้านจะเรียกเราสองคนพี่น้องว่า “ราม” กับ “กฤษณะ”

image2

 

การศึกษา

ครอบครัวทำการเกษตร แต่โชคดีที่พ่อแม่ส่งเสริม และกัดฟันส่งให้ได้เรียนหนังสือ จนจบมหาวิทยาลัย  ศึกษาด้านยา B.S.c in Zoology, botany, chemistry .H.N.B. Garhwal University.

 

ทำงานตรงกับที่เรียนไหม?

ไม่   หลังเรียนจบ ผมตะเวนสอบเข้ารับราชการหลายที่ แต่ไม่มีที่ไหนเรียกตัว มีคนรองานมากมาย รวมทั้งผม  เคยได้ทำงานพาร์ทไทม์อยู่ห้องฉุกเฉิน EMRI (Emergency management research institute) Uttrakhand เคยทำงานห้องยา Uttranchal Heart Care Center Hospital , Rishikesh แต่ไม่ได้บรรจุ  คนขาดเค้าก็เรียกมาทำ จากว่างงานเป็นช่วง ๆ  สุดท้ายก็ตกงานถาวร

image3

 

เริ่มฝึกโยคะเมื่อไหร่?

ช่วงที่น้องชาย คือ วิเวก มาเป็นครูโยคะที่กรุงเทพ ระหว่างรองานที่รอแล้วรอเล่าอยู่หลายปี วิเวกแนะนำให้ผมไปฝึกโยคะ ตอนแรกก็ไม่ชอบ อยากทำงานตรงกับที่เรียน ฝึกโยคะรอไปเรื่อย ๆ  มันไม่มีอะไรทำ ดีกว่ารอคอยอย่างเดียว โยคะช่วยลดความคิดฟุ้งซ่านได้มาก อย่างน้อยระหว่างฝึกโยคะ ผมก็ไม่ต้องคิดเรื่องงาน เพราะยิ่งคิดยิ่งหดหู่ การรอคอยเป็นสิ่งที่กัดกร่อนหัวใจ จากนั้นความรู้สึกก็เปลี่ยน เริ่มสนใจ ฝึกเข้ม และศึกษาอย่างลึกซึ้ง  ผมค่อนข้างได้เปรียบ เพราะตอนเรียนมหาลัยเรียนกายวิภาคเป็นพื้นฐาน

 

เริ่มสอนโยคะได้อย่างไร?

ผมเป็นคนโตของครอบครัว แต่ผมช่วยครอบครัวไม่ได้เลย มีวิเวกเป็นหัวเรื่ยวหัวแรงคนเดียว   ความกดดันของผมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ตามอายุ  พอวิเวกชักชวนให้มาอยู่กรุงเทพด้วยกัน จึงได้เริ่มสอน  ลองคิดดู คนบ้านนอก ไม่เคยได้ออกไปไหน แล้วงานแรกคืองานที่ไม่เคยมีประสบการณ์ แถมอยู่ห่างบ้าน ห่างครอบครัว อยู่ต่างประเทศ มันจึงเป็นอะไรที่ทั้งประหม่า วิตกกังวลยิ่งกว่าตอนรองาน

 

สอนโยคะครั้งแรก?

นักเรียนสองคนแรกคือ พ่อผมเอง และ วิเวก ขนาดสอนคนในครอบครัวยิ่งประหม่า พูดผิด ๆ ถูก ๆ  ตะกุกตะกัก พูดซ้ำ ๆ  วน ๆ  เหมือไปไม่เป็น นึกได้แต่พูดไม่ออก ซ้าย ขวา ขา แขน สลับกันยุ่งไปหมด  จากนั้นก็สังเกตการณ์อยู่ท้ายห้องช่วงวิเวกสอน มีเข้าฝึกบ้าง นักเรียนในห้องก็มอง ต้องยอมรับว่านักเรียนหลายคน อาสนะเก่งกว่าผมอีก

 
image7
 

อุปสรรคในการสอน ?

ความกดดันที่ต้องถูกเปรียบเทียบกับน้องชาย เมื่อนักเรียนเค้ารู้สึกได้ว่า ผมเป็นครูใหม่ ผมตื่นเต้น พูดอึกอัก การเรียงร้อยท่ายังไม่ต่อเนื่อง  ตำแหน่งที่ผมได้ยืนอยู่หน้าห้อง  คงบังคับให้ใครยอมรับอะไรได้ไม่ง่าย  สายตาที่ต่อต้านกลับมา ยิ่งเพิ่มความเครียดให้ผมเป็นทวีคูณ แต่ผมไม่ย่อท้อ  สอนบ่อย ๆ ฝึกบ่อย ๆ ปรับจุดอ่อน เพิ่มจุดแข็ง ผมก็มีสไตล์การสอนของผมเอง ได้เรียนรู้จากนักเรียนตัวเอง  ทุกคนให้โอกาสนี้กับผมแล้ว สิ่งที่เหลือคือ อดทน  หมั่นฝึกฝน และเพิ่มความพยายาม

 

ชีวิตครูโยคะเกือบสองปี เป็นอย่างไร ?

ผมผ่านจุดนั้นมาได้ ก็ต้องขอขอบคุณทุกคนจริง ๆ ทั้งกำลังใจจากนักเรียน ความเมตตาที่ทุกคนหยืบยื่นให้ ผมซาบซึ้งใจ และอบอุ่น ความกังวลน้อยลง ผมมีงานทำ มีรายได้ มีคนที่รัก มีครอบครัว มีนักเรียน ได้เห็นพัฒนาการทั้งของตัวเองและของนักเรียน มีความภูมิใจในอาชีพ  โยคะคือจุดเริ่มต้น และจุดเปลี่ยนของชีวิตผมจริง ๆ

 

นมัสเต

 

image8